4 ผลกระทบด้านสุขภาพ เกิดจากการลดน้ำหนักเร็วไป


จากบทความเรื่อง 4 เรื่องพลาดๆ ที่เกิดจาก “น้ำหนักลงเร็วเกินไป” บอกถึงผลเสียอย่างหนึ่งว่า การลดน้ำหนักไม่ได้เหมือนกับการลดไขมัน ในขณะที่อาหารที่มีแคลอรี่ต่ำมากอาจช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่จำนวนมากที่เราลดได้อาจมาจากกล้ามเนื้อและน้ำนั่นเอง ซึ่งนั่นส่งผลให้ระบบเผาผลาญเราแย่ลงไปด้วย
แต่ไม่ใช่เรื่องผลกระทบเรื่องของระบบเผาผลาญและการลดน้ำหนักในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบไปถึงสุขภาพอย่างอื่น ที่เพื่อนๆ อาจคาดไม่ถึง เพราะหากไม่ได้รับแคลอรีเพียงพอจะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร เพราะในอาหารที่แคลอรี่ต่ำอาจไม่มีเหล็ก โฟเลตและวิตามินบี 12 อย่างเพียงพอ ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้ครับ




  1. ผมร่วง: เมื่อเพื่อนๆ กินแคลอรี่น้อยเกินไปร่างกายอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมซึ่งอาจทำให้ผมร่วง
  2. เหนื่อยง่ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน: เพื่อนๆ อาจได้รับธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 และโฟเลตไม่เพียงพอในอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ซึ่งอาจทำให้เพื่อนๆ เสี่ยงต่อการอ่อนเพลียและโรคโลหิตจาง
  3. ภูมิคุ้มกันแย่ลง: การได้รับแคลอรี่และสารอาหารไม่เพียงพออาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเพื่อนๆ อ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  4. กระดูกอ่อนแอและเปราะบาง: อาจเกิดจากการขาดวิตามินดี แคลเซียมและฟอสฟอรัสในอาหารที่ได้รับไม่เพียงพอนั่นเอง
การลดน้ำหนักเร็วเกินไปมาพร้อมกับความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย เหล่านี้รวมถึงการสูญเสียกล้ามเนื้อ, การเผาผลาญลดลง, การขาดสารอาหาร, โรคนิ่วและผลข้างเคียงอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน


ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วัย 20-30 ต้นๆ เริ่มแก้ปัญหาฝ้า หน้าหมองคล้ำ ยังไงดี?

รูปภาพ
ผู้หญิงช่วงวัยตั้งแต่ 20-30 ต้นๆ จะเริ่มพบว่า “ ฝ้า “เป็นอีกหนึ่งปัญหาทางผิวหนังที่พบบ่อยและสร้างความกังวลใจ เพราะรอยด่างดำบนผิวหนังที่เกิดจากการเปลี่ยนสีของผิวเข้มกว่าสีผิวปกติ แม้จะไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่า ฝ้าเกิดจากอะไร มันอาจมาจากความไวของฮอร์โมน ยาคุมกำเนิดรวมทั้งความเครียด หรือโรคต่อมไทรอยด์ แต่มีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอย่าง “แดด” ทำให้เกิดฝ้าได้ เป็นตัวการสำคัญนำมาซึ่งปัญหาผิวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ จุดด่างดำที่ทิ้งรอยไว้นาน จุดเสี่ยงเกิดฝ้าและความหมองคล้ำมากที่สุด? หน้าผาก แก้ม หน้าแก้ม คาง โหนกแก้มทั้งสองข้าง บริเวณสันจมูก วัย 20-30 ต้นๆ เริ่มแก้ปัญหาฝ้า หน้าหมองคล้ำ ยังไงดี? การรักษาฝ้าเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร เพราะต้องใช้เวลาในการรักษานาน อีกทั้งเมื่อรักษาจนหายแล้วก็กลับไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ตัวเลือกแบบบ้านๆ “ว่านหางจระเข้” ได้รับการแนะนำเหมือนกัน โดยมีการศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ( อ้างอิง ) บอกว่า ในว่านหางจระเข้นั้นมีไลโปโซม (Liposome) ซึ่งช่วยปรับปรุงปัญหาฝ้าอย่างมีนัยสำคัญ ทรีทเม้นต์ที่ทำงานร่วมกับส่วนผสมที่เพื่...
อ่านเพิ่มเติม

ล้างหน้าถูกวิธี ผิวดีสวยได้!

รูปภาพ
อากาศร้อนๆ แบบนี้ รู้สึกทั้งหนึบทั้งเหนอะผิวกันใช่ไหมล่ะสาวๆ ทั้งฝุ่นละออง ควันพิษ ที่รุมกันมาเกาะติดผิวหน้าหรือบนเครื่องสำอาง ล้วนแต่ทำให้หมักหมมจนเกิดสิวได้ ครั้นจะแก้ปัญหาด้วยการล้างทำความสะอาดผิวก็ยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นเพราะเราทำผิดวิธีมาตลอด..! Debra Jaliman แพทย์ผิวหนังในนิวยอร์คได้บอกเอาไว้ว่า…  “คนส่วนใหญ่มักจะใช้นิ้วมือทำการล้างหน้าและผิวหน้าก็จะไม่มีวันสะอาดอย่างแท้จริง เนื่องจากแบคทีเรียจะแฝงตัวอยู่ใต้เล็บและสามารถมาเกาะติดอยู่ที่ใบหน้าได้”  วันนี้สดสวยเลยจะมาบอกว่าวิธีล้างหน้าให้ถูกต้องเป็นแบบนี้ค่ะ ใช้เครื่องมือทำความสะอาด อย่างที่บอกว่าการใช้มือล้างอาจจะไม่ดีเท่ากันการใช้อุปกรณ์ในการล้างทำความสะอาดผิวหน้า ดังนั้นเราควรใช้พวก ผ้าขนหนูสำหรับเด็กอ่อน แปรงทำความสะอาดผิวหน้าระบบโซนิค ฯลฯ มาใช้ในการทำความสะอาดผิวแทนนิ้วมือ ซึ่งจะทำให้ล้างได้เกลี้ยงกว่าค่ะ ใช้น้ำอุณหภูมิห้อง เย็นหรือร้อนเกินไปไม่ดีกับผิวเลยค่ะ น้ำสะอาดอุณหภูมิห้องนี่แหละที่ดีต่อการทำความสะอาดผิวที่สุดแล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองด้วยค่ะ นวดทำความสะอาด หลายคนที่ทำความสะอาดผิวโดยก...
อ่านเพิ่มเติม

2 STEPS เคล็ดลับบำรุงด้วยอายครีม

รูปภาพ
การดูแลผิวรอบดวงตาด้วยอายครีมไม่ใช่จะปาดๆ โปะๆ แล้วจบเรื่องนะคะสาวๆ แต่เพราะรอบดวงตาของเราบอบบางมากจึงต้องพิถีพิถันมากกว่านั้นค่ะ ดังนั้นวันนี้สดสวยเลยนำทริคการดูแลผิวของรอบดวงตาด้วยอายครีมนี่แหละ แต่เพิ่มขั้นตอนในการบำรุงมากขึ้น ซึ่งมันจะทำให้การบำรุงด้วยอายครีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ ลองมาดูกันเลย 1. แตะอายครีมเป็นจุดๆ เราเห็นรูปกระบอกตาบริเวณใต้ดวงตาเราใช่ไหมคะ จับๆ ดูเราจะสัมผัสถึงกระดูกบริเวณนั้น ซึ่งการใช้อายครีมควรแต้มที่บริเวณใต้ตาเป็นจุดเล็กๆ ไล่จากแถวๆ หัวตาตามรูปตามาที่หางตาเลยค่ะ แต้มมาทีละนิดเพื่อให้เนื้อครีมกระจายตำแหน่งบริเวณใต้ตาค่ะ 2. เล่นเปียโนกันเถอะ ขยับปลายนิ้วของเราบนผิวใต้ดวงตากันดีกว่าค่ะ บรรเลงเหมือนประหนึ่งเรากำลังเล่นเปียโนอยู่นั่นแหละ ครีมที่เราแต้มไว้จะกระจายตัวลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นด้วยค่ะ เห็นไหมล่ะ เคล็ดลับง่ายๆ ทำได้ใน 2 ขั้นตอน บำรุงเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรอบดวงตาได้มากขึ้น นำไปใช้กันได้เลยนะคะ www.carashop67.com www.facebook.com/carashop67
อ่านเพิ่มเติม