บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2018

7 ขั้นตอน วิธีดีท็อกซ์น้ำตาลแบบปรับพฤติกรรม

รูปภาพ
โรคอ้วนและโรคเรื้อรังส่วนใหญ่ล้วนมีสาเหตุมาจากน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า สิว โรคเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงภาวะมีบุตรยาก ด้วยเหตุนี้การขับสารพิษเพื่อขจัดน้ำตาลออกจากร่างกายจึงเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ทั้งขจัดสารพิษจากน้ำตาลและทำลายวงจรการเสพติดความอยากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่ทำลายสุขภาพอีกด้วย สำหรับวิธีการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 10 วัน โดยไม่มีการอดอาหารค่ะ มาลองไปพร้อมๆ กันมั้ยคะ? 1. ถึงเวลาของแข็ง! เพื่อสุขภาพที่ดีบางครั้งคุณจำเป็นต้องหยุดน้ำตาลโดยเด็ดขาด เพื่อช่วยฟื้นฟูสารสื่อประสาทและฮอร์โมนในร่างกายซึ่งเป็นผลจากการหยุดบริโภคน้ำตาลทุกรูปแบบ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากแป้งและสารให้ความหวานเทียมด้วย เชื่อเถอะกระบวนการเผาผลาญของคุณจะกลับมาดีขึ้นเกินคาด 2. ทานคาร์โบไฮเดรตแบบพอดี คุณต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตอย่างเหมาะสม มิเช่นนั้นน้ำหนักของคุณต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ และอย่าลืมว่าการทานผักอย่าง หน่อไม้ฝรั่ง ผักใบเขียวในตระกูลบร็อกโคลี่ ถั่วเขียว หัวหอม เห็ด ซูกินี่ มะเขือเทศ มะเขือยาว ยี่หร่า และพริกชี้ฟ้า ล้วนเต็มไปด้วยแป้งเหมือนกัน 3. ใช้ไขมันดีสู้

ล้างหน้าผิดชีวิตพังเพราะสิวผุด หยุดเถอะ!

รูปภาพ
เวลาแต่งหน้าไม่เคยยั่น แต่ทำไมเวลาล้างเราถึงขี้เกียจได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ เครื่องสำอางเดี๋ยวนี้มักจะมีแต่ประเภทติดทนยาวนาน ล้างไม่หลุดอยู่เต็มไปหมดซะด้วย เราก็เลยหาตัวช่วยในการล้างเครื่องสำอางให้หลุดออกแบบง่าย ๆ แต่แน่ใจไหมล่ะว่าวิธีการที่เราทำมันถูกแล้วจริง ๆ สิ่งนี้เป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้เราทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีขึ้น และควรหยุดพฤติกรรมผิด ๆ กันดีกว่าค่ะ ถูอย่างรุนแรง บางครั้งก็รำเครื่องสำอางที่มันติดแน่นนานเหลือเกิน จนเผลอกระทำรุนแรงกับผิวหน้ามากเกินไป แต่ใจเย็นนะคะ เราต้องถนอมนางหน่อย เพราะไม่เช่นกันยางชิงแก่ริ้วรอยเกิดจะเสียหาย เราแค่ต้องเลือกตัวช่วยในการล้างให้ถูกประเภท ถ้าถูกแล้วก็แทบจะไม่ต้องออกแรงเลยค่ะ เลือกเมคอัพรีมูฟเวอร์ พวกรีมูฟเวอร์เหล่านี้มีหลายประเภทนะคะ ทั้งแบบน้ำมัน เจล ครีม ถ้าใครผิวแห้งอาจจะเหมาะกับน้ำมันได้ แต่ถ้าผิวมันไม่ควรเด็ดขาดเพราะเดี๋ยวจะยิ่งทำให้ผิวมันมากขึ้น เลือกเป็นแบบเจลทดทนก็ดีค่ะ คลีนเซอร์ต้องมา ล้างด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์แล้วไม่ใช่จบนะคะ เราแค่ขจัดสิ่งที่เป็นคราบฝังลึกออกไปได้เท่านั้น แต่ยังคงต้องมีในส่วนของคลีนเซอร์มา

4 ขั้นตอนบอกลาสิวอุดตัน มันจะไม่กลับมาอีก!

รูปภาพ
“สิวอุดตัน” แค่พูดถึงก็รู้สึกแย่ละ… เป็นปัญหาที่พบได้ง่ายและสร้างความรำคาญใจให้กับเราสุด ๆ เวลาสัมผัสหน้าแล้วอยากร้องไห้ เพราะผิวไม่เรียบเนียนเอาซะเลย ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานมากเท่าไร โอกาสที่จะเกิดเป็นหลุมสิวขนาดใหญ่และรูขุมขนกว้างก็จะมากขึ้นตามเท่านั้น อย่าปล่อยเอาไว้ มาหาวิธีแก้ไขดีกว่า 1.รักษาความสะอาด เริ่มจากการรักษาความสะอาดบนใบหน้าให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบนใบหน้าและการขัดเช็ดถูใบหน้าแรง ๆ เราไม่จำเป็นต้องล้างหน้าบ่อย ๆ แค่ไม่ปล่อยให้ผิวสกปรกข้ามคืนก็พอค่ะ 2.เลี่ยงแสงแดด แสงแดดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่ใบหน้ามีสิวอุดตันอยู่แล้ว นอกจากนี้เมื่อใช้ครีมกันแดดแล้วล้างหน้าเอาครีมกันแดดออกไม่หมด จึงส่งผลให้เกิดการอุดตันซ้ำซากจนรักษาสิวอุดตันไม่หายซะทีค่ะ 3.คุมมันบนใบหน้า พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะช่วยทำให้ใบหน้ามีความมันมากขึ้น เช่น งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เปลี่ยนจากครีมบำรุงผิวเนื้อหนักเป็นเจลบำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบา เป็นต้นค่ะ ซึ่งปัญหานี้การกระชับรูขุมขนช่วยได้นะคะ 4.ใช้เจลแต้มสิว ถ้ามันถึงจุดที่คิดว่า รั

เปลี่ยนพฤติกรรมหยุดทำสิวเห่อ!

รูปภาพ
เมื่อพูดถึงเรื่องสิว ก็มักจะปวดหัวและเครียดทุกครั้งที่เกิดสิว วิธีรักษาสิวให้หายไว ๆ ทันวันสำคัญของคุณ วิธีการอาจจะฟังดูยาก แต่การรักษาสิวให้หายภายใน 7 วันสามารถทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสิวได้เป็นอย่างดี มีพฤติกรรมอะไรบ้างไปดูกันด้านล่างนี้เลย ต้องสะอาด ความสะอาดเป็นเรื่องแรกที่คนอยากรักษาสิวให้หายไว ๆ จะต้องใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นความสะอาดของผิวหน้าและความสะอาดของสิ่งที่อยู่รอบตัว แต่การล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นถือว่าเพียงพอต่อการรักษาสิวแล้ว นอกจากนี้ต้องนำพวกอุปกรณ์ที่เราใช้กับผิวหน้าเป็นประจำ เช่น แปรงแต่งหน้าต่าง ๆ มาทำความสะอาดบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งยิ่งดี รวมถึงผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และโทรศัพท์มือถือค่ะ งดสัมผัส มือไม้ต้องอยู่นิ่ง ๆ อย่าวิ่งไปหาใบหน้าเด็ดขาด เพราะมือของเราสัมผัสสิ่งสกปรกมาอย่างมากมาย  ถ้าอยากรักษาสิวให้ได้ผลใน 7 วันเราจึงต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอเอามือไปจับ หรือบีบสิวเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าจะล้างมือจนมือสะอาดแล้วก็ตาม เพราะจะทำให้ผิวที่เป็นสิวอยู่ นั้นเกิ

5 ปรับพฤติกรรม ทำให้สิวแล้วลดลงใน 14 วัน

รูปภาพ
เวลามีสิวทำให้เราหงุดหงิดใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการกินที่ทำให้สิวหายกัน บอกได้เลยว่าถ้าหลีกเลี่ยงและกินอาหารประเภทที่เราว่านี้สิวจะหายภายใน 14 วัน กลับมาหน้าใสเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ 1.เลี่ยงของหวานไปก่อน อาหารรสหวานทั้งหลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพผิว น้ำตาลเป็นหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลที่เราใช้ในการปรุงอาหาร หรือเป็นพวกผลไม้ที่มีรสหวานก็ไม่มีข้อยกเว้น สิ่งที่ต้องทำเลยก็คือลดปริมาณการกินหวาน น้ำผลไม้ปั่น กาแฟเย็นใส่น้ำตาล สิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นกรด เซลล์เกิดอาการอักเสบ และมีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย สุดท้ายแล้วก็จะเป็นสิวนี่แหละค่ะ 2.กินผักมากๆ ผักสดสะอาดมันมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว นอกจากจะทำให้สิวไม่ขึ้นแล้วยังช่วยเรื่องของริ้วรอย การฟื้นฟูสภาพผิว จากมลภาวะและแสงแดดที่มาทำร้าย ควรรับประทาน ผักใบเขียวชนิดต่าง ๆ หรือจะเป็นผักสีอื่น ๆ เช่น มันเทศ แครอท ฟักทอง ซึ่งอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านสิวได้ค่ะ 3.ไม่กินแป้งขัดขาว นอกจากเราจะต้องหลีกเลี่ยงน้ำ

ผิวสวยด้วยเปลือกส้ม เคล็ดลับที่น่าลอง

รูปภาพ
ส้ม เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งไม่ได้มีแต่ในผลของมันเท่านั้น ในส่วนของเปลือกส้มเองก็มีเช่นกันค่ะ ดังนั้นกินส้มแล้วห้ามทิ้งเปลือกอย่างเด็ดขาด เพราะเปลือกส้มก็นับว่าเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อผิวไม่น้อยเลย ช่วยอะไรได้บ้างลองมาดูกันค่ะ เปลือกส้มที่เราแกะทิ้งอยู่เป็นประจำ มันไม่ธรรมดาเลยนะคะ เปลือกส้มจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ผิว บำรุงผิวให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส ช่วยลดรอยสิวและลดการเกิดสิว แถมยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ลองมาดูวิธีบำรุงผิวด้วยเปลือกส้มกันเลยค่ะ วิธีใช้ “เปลือกส้ม”  ล้างเปลือกส้มให้สะอาด จากนั้นนำมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย เสร็จแล้วให้นำมาพอกบริเวณที่เป็นสิวหรือรอยสิว หรือจะนำมาพอกทั้งใบหน้าก็ได้ จากนั้นปล่อยไว้ประมาณ 20-30 นาที ก่อนจะล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นค่ะ สูตรนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรหน้าใส เพราะสามารถช่วยในเรื่องการลดสิวและลดรอยสิวได้นั่นเอง ใครชอบกินส้มอยู่แล้วลองนำสูตรนี้มาบำรุงผิวได้นะคะ www.carashop67.com www.facebook.com/carashop67

DIY MASK YOGURT สูตรมาส์กผิวสำหรับสาวผิวเข้ม ต้องลองนะ พูดเลย!

รูปภาพ
มัวแต่เอาใจสาวผิวขาวจนสาวผิวเข้มเขาน้อยใจแล้วนะนั่น วันนี้สดสวยเลยหาสูตรมาส์กธรรมชาติสำหรับสาวผิวเข้มมาฝาก บอกเลยว่าถ้าได้ลองจะต้องประทับใจ เพราะมันทำให้ผิวของสาว ๆ ที่มีผิวสีเข้มนวลเนียนเปล่งปลั่ง น่าหลงใหลไม่แพ้สาวผิวขาวเลยล่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ข้าวโอ๊ต ผงขมิ้น วิธีมาส์ก นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกันให้เป็นเนื้อข้น ๆ พอเข้ากันดีแล้วก็นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มามาส์กใบหน้าให้ทั่ว รวมถึงลำคอด้วย จากนั้นมาส์กทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างทำความสะอาดผิวออกให้หมด ทำบ่อย ๆ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจะค่อย ๆ ปรับให้เนียนสวยไปเรื่อย ๆ ค่ะ สาว ๆ ผิวสองสีคนไหนอยากมีผิวออร่าแบบเขากันบ้าง ลองนำสูตรธรรมชาติสูตรไปทำกันได้เลยค่ะ www.carashop67.com www.facebook.com/carashop67

5 เรื่องพลาด อาบน้ำทำผิวเสีย!

รูปภาพ
รู้ไหมว่าอาบน้ำไม่ดีผิวก็เสียได้นะ การอาบน้ำอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่บางครั้งเราก็เผลอทำร้ายผิวไม่รู้ตัวนะ หลาย ๆ คนมีพฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้ผิวเสียระหว่างอาบน้ำ มาดูค่ะว่าคุณเผลอทำเรื่องแบบนี้ไปบ้างหรือเปล่า 1.อาบน้ำอุ่นนาน ๆ อาบน้ำอุ่นไม่ใช่ไม่ดีเสมอไปนะคะ น้ำอุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ แต่ถ้าอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นนานเกินกว่า 7 นาที น้ำอุ่นจะเริ่มทำให้ผิวแห้งเสียได้ และจะให้ดีหลังจากอาบน้ำอุ่นแล้วควรกระชับผิวด้วยน้ำเย็นที่ไม่เย็นจัดมาก เพื่อเป็นการปิดรูขุมขนนะคะ 2.ใช้สบู่แรง ๆ การเลือกใช้สบู่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยถนอมผิวได้นะคะ ตรงกันข้ามถ้าเราเลือกใช้สบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง ก็อาจจะทำให้ผิวแย่ได้ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเลือกที่เป็นครีมอาบน้ำและมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะดีกว่าค่ะ 3.อย่าขัดผิวแรง โดยปกติแล้วในหนึ่งสัปดาห์เราต้องมีการกระชับผิวสักหนึ่งครั้ง การขัดผิวเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายออก ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่การขัดผิวแบบแรงมากเกินไป ก็ทำให้ผิวเกิดการอักเสบและยังทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้ด้วยนะคะ 4.ใช้ใยขัดผิวเสื่อมสภาพ

สูตรมาส์กแตงกวา เคล็ดลับบำรุงผิวจากธรรมชาติ

รูปภาพ
แอบไปรู้มาว่านางแบบสาวคนสวยอย่าง Miranda Kerr เธอมีเคล็ดลับบำรุงผิวจากธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือการนำแตงกวามาเป็นส่วนผสมหลักในการมาส์ก แต่บอกเลยว่าแค่แตงกวาก็เอาอยู่ มาดูกันว่าเธอมีวิธีบำรุงผิวอย่างไร สิ่งที่ต้องเตรียม แตงกวาแช่เย็น เม็ดมาส์กชีท วิธีทำ นำเม็ดมาส์กไปแช่น้ำให้คลายตัวจนได้แผ่นมาส์ก จากนั้นบดแตงกวาลงบนชีทมาส์ก แล้วก็นำมามาส์กผิวทิ้งไว้ 15 นาที ที่ต้องเลือกแตงกวาเย็นเพื่อที่เวลามาส์กผิวก็จะยิ่งกระชับเพิ่มมากขึ้นค่ะ เมื่อมาส์กเสร็จแล้วเราก็ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย และบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้เลย ทำบ่อย ๆ ผิวก็จะเป็นปลั่งกระจ่างใส ไม่โรยราแน่นอนค่ะ www.carashop67.com www.facebook.com/carashop67

5 วิธี ลงรองพื้นแบบไหนให้ผิวเนียน

รูปภาพ
การจะลงรองพื้นให้เนียน อยู่ที่หลาย ๆ องค์ประกอบด้วยกันนะสาว ๆ อันดับแรกคือเรื่องผิวของเราเอง ถ้าผิวเราเนียนสวยก็ถือว่าโชคดีมาก ๆ เพราะแทบไม่ต้องใช้ตัวช่วยอย่างอื่นเลย แต่ถ้าเราไม่โชคดีแบบนั้นล่ะ วิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้การลงรองพื้นเป็นเรื่องง่าย และปรับผิวให้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ วันนี้สดสวยนำเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบอกต่อค่ะ 1.ลงไพรเมอร์ ไพรเมอร์เป็นตัวช่วยสำคัญของคนที่มีผิวหน้าไม่เรียบเนียนค่ะ ถ้าใครเป็นคนที่ผิวไม่เรียบเนียนหรือหน้ามัน ก็อาจจะต้องพึ่งตัวช่วยอย่างไพรเมอร์ค่ะ ใช้แค่เมล็ดถั่วเขียว แล้วลงที่จุดทีโซน และจุดที่ลงรองพื้นไม่ค่อยติด รวมทั้งบริเวณที่ผิวไม่เรียบเนียน จากนั้นก็รอให้ไพรเมอร์เนียนไปกับผิวสักพัก ค่อยลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไปค่ะ 2.เกลี่ยรองพื้นที่ละจุด เห็นบ่อยเลยว่าหลาย ๆ คนมักจะชอบลงรองพื้นไปก่อน 5 จุด ซึ่งไม่ควรเลยค่ะ เพราะรองพื้นที่ทาทิ้งไว้อาจจะแห้งติดผิว ทำให้เกลี่ยทีหลังได้ยาก แถมอาจจะเป็นคราบอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรแต้มแล้วเกลี่ยไปทีละจุดจะดีกว่าค่ะสาว ๆ  3.ฟองน้ำหมาด ๆ ช่วยได้ ฟองน้ำเปียกหมาดจะช่วยให้รองพื้นติดผิวได้ดีขึ้น หลังจากลงรองพื้นทั่วใบหน