ครีมสมุนไพรกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระ ติ่งเนื้อ by carashop67

กาแฟนอกจากจะทำให้เราตื่น สดชื่นในตอนเช้าแล้ว ในด้านความงามยังมีประโยชน์มากเลยนะคะ วันนี้สดสวยนำสูตรมาส์กกาแฟมาแชร์ต่อ เพราะว่ากาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและช่วยให้ความหมองคล้ำใต้ตาดูดีขึ้น แถมกลิ่นของกาแฟยังทำให้เราผ่อนคลายเสียด้วย สูตรนี้ดีขนาดไหนไปลองทำกันเลยค่ะ ส่วนผสมที่ต้องเตรียม ผงกาแฟอินทรีย์  2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์  2 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการบำรุง เตรียมชามผสมส่วนผสมเอาไว้ จากนั้นใส่ผงกาแฟใน 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะพร้าวอีก 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อได้ส่วนผสมที่ต้องการแล้ว ทำความสะอาดผิวหน้า และนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทาใต้ดวงตา ทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาที โดยให้นวดบริเวณใต้ตาไปเบา ๆ ประมาณ 5 นาทีก่อน เพื่อช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียน และส่วนผสมจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วทิ้งไว้ตามเวลาที่บอก จากนั้นให้ล้างออกให้สะอาด ถ้ามีเวลาก็สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะกาแฟจะช่วยลดการอักเสบของผิวได้ด้วย หรือถ้าใครอยากจะมาส์กทั้งใบหน้าก็สามารถทำได้ โดยเตรียมส่วนผสมให้เท่ากันทุกสัดส่วนและเพียงพอกับใบหน้า เพียงแค่นี้ผิวก็จะดูดีแล้วค่ะ

เกิดมาเป็นสาวผิวมันก็มีความหนักใจระดับหนึ่ง ไหนจะต้องระวังเรื่องสิวแล้วยังแต่งหน้าลำบากกว่าชาวบ้านไปอีก เพราะเครื่องสำอางไม่ติดทน ออกไปเจอแสงแดดหน่อยก็มันวาวเป็นคราบแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องมองหาสิ่งที่เหมาะกับผิวมากที่สุด และสารสกัดธรรมชาตินี่แหละที่ปลอดภัยและช่วยให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะเข้ากับผิวมันได้หรอกนะ ลองมาดูว่าสารสกัดอะไรที่ผิวมันจะเลิฟ ๆ ค่ะ 1.แตงกวา แตงกวามีน้ำเป็นส่วนผสม บางคนสงสัยว่าทำไมต้องเป็นแตงกวาล่ะ เพราะเราไม่ได้ผิวแห้งเสียหน่อย ผิวมันนี่แหละที่ต้องคุมบาลานซ์กันดี ๆ หลายครั้งที่ผิวมันเกิดจากผิวขาดน้ำสะสมมากเกินไป ทำให้กลไกร่างกายผลิตน้ำมันออกมาเกินความจำเป็น ทำให้เรากลายเป็นคนผิวมันเยิ้มยังไงล่ะ หลังจากล้างทำความสะอาดผิวแล้วก็นำแตงกวาที่ปั่นละเอียดแล้วแช่เย็นไว้มามาส์กหน้าทิ้งไว้ก็ได้นะคะ 2.แอปเปิ้ลไซเดอร์ ถ้าใครรู้สึกหน้ามันเกินเยียวยา ลองหาแอปเปิ้ลไซเดอร์มาเช็ดผิว โดยใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ประมาณ 25 มล. ผสมกับน้ำสะอาด 100 มล. เช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทำทุกวันผิวมัน ๆ ก็จะหายไป เพราะสูตรนี้จะช่วยกระชับรูขุมขนได้มากขึ้นค่ะ 3.น้ำดอกกุหลาบ

สาว ๆ ที่ชอบพรมน้ำหอมก่อนออกจากบ้าน เคยสงสัยไหมว่าเวลาเราเดินผ่านใครสักคนที่กลิ่นหอมแม้แต่ตอนเย็นย่ำค่ำมือ เขามีเคล็ดลับอะไรกันนะ ทำไมกลิ่นหอมติดทนนานได้ขนาดนั้น ในขณะที่บางครั้งยังไม่หมดครึ่งเช้า กลิ่นหอมที่ฉีดมาก็จางหายไปเสียก่อนแล้ว เอาล่ะ วันนี้สดสวยนำเคล็ดลับขยายเวลาความหอมให้คงทนตลอดทั้งวันมาฝากกันค่ะ เลือกน้ำหอม ก่อนอื่นก็เป็นที่ประสิทธิภาพของน้ำหอมที่เราใช้ด้วย ถ้าคุณเป็นคนมีเหงื่อเยอะลองเลือกที่เป็นลักษณะน้ำมันดูก็ได้ เพราะมันจะช่วยให้ติดทนมากขึ้น แต่น้ำหอมนั้นต้องเลือกที่มีคุณภาพ หัวน้ำหอมเข้มข้น ติดทนล้านเปอร์เซ็นต์ด้วยนะคะ มิฉะนั้นต่อให้อาบทั้งขวดก็ระเหยไปไหนต่อไหนได้ในพริบตา ดังนั้นการเลือกน้ำหอมดี ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญอับดับแรกค่ะ ฉีดที่ผม อย่าเพิ่งนึกภาพว่าฉีดน้ำหอมเหมือนสเปรย์ฉีดผมนะคะ และการที่น้ำหอมที่เป็นแอลกอฮอล์สัมผัสกับผมโดยตรงมันก็ไม่โอเคหรอกค่ะ อาจทำให้ผมเสียได้ แต่เรามีเคล็ดลับคือ ฉีดน้ำหอมที่หวี แล้วนำไปหวีผมค่ะ กลิ่นหอมจะติดอยู่ในทุกอณูของเส้นผม เวลาสะบัดผมทีก็จะมีกลิ่นหอมจาง ๆ มีเสน่ห์สุด ๆ เลยค่ะ ป้ายที่ท้ายทอย ถ้าอยากได้อารมณ์กลิ่นหอม

สาวแว่นหลาย ๆ คนเคยถอดใจในการแต่งหน้ามาแล้ว เพราะแต่งไปอย่างไรก็เจอแต่เงาสะท้อนของกระจกแว่นตา ไม่สามารถเห็นความสวยงามของดวงตาเราได้อย่างชัดเจน เลยตัดใจไม่แต่งมันซะเลย อย่าเพิ่งท้อไปค่ะ วันนี้สดสวยมีเคล็ดลับการแต่งหน้าให้ดวงตาสวยโดดเด่นทะลุแว่น เพื่อสาว ๆ ที่ต้องใส่แว่นสายตาโดยเฉพาะ รับรองว่าถ้านำเคล็ดลับนี้ไปใช้ สวยโดนใจแน่นอนค่ะ 1.เลือกสีอายแชโดว์ โทนน้ำตาล ทอง จะทำให้ดวงตาของเราหวานและชัดขึ้น ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แถมยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ถ้าไม่อยากสวยแบบหลอก ๆ งดสีแรง ๆ พวกสีฟ้า เขียว ม่วง อะไรประมาณนี้ไปได้เลย 2.เพิ่มประกายที่ดวงตา การเล่นสีที่เป็นประกายตรงบริเวณกลางเปลือกตา สร้างมิติให้ดวงตาเราโดดเด่นเป็นอย่างมาก เลือกใช้ shimmer  ตรงบริเวณกึ่งกลางเปลือกตา และ highlighter ตรงช่วงโหนกคิ้ว ซึ่งถ้าคุณจะใช้เทคนิคนี้ สีเปลือกตาที่เป็นสีเบสจะต้องเข้มขึ้นนิดนึงค่ะ เพราะเมื่อลงชิมเมอร์ลงไปแล้วมันจะดรอปลงนิดหน่อย ก็จะพอดีกันเลยค่ะ 3.เลือกสีอายไลเนอร์ สีของอายไลเนอร์สำคัญนะคะ โดยเราควรเลือกใช้สีของลายเนอร์ให้เบา เช่น สีน้ำตาล หรือเป็นเฉดสีที่อ่อนกว่าสีคิ้ว เพื่อที่เ