ครีมสมุนไพรกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระ ติ่งเนื้อ by carashop67

เกิดเป็นคนผิวแห้งใครว่าโชคดี ไหนจะหนีเรื่องริ้วรอยที่มาง๊ายง่าย แล้วจะเจอกับอาการแพ้ต่าง ๆ เพราะผิวแห้งมักจะเซนซิทีฟอีก สารพัดปัญหาเหมือนกันนะคะสาว ๆ หลายคนเลยที่มีปัญหาหลังล้างหน้า ซึ่งพบว่าผิวแห้งตึงจนเกิดอาการระคายเคืองก็มี ดังนั้นปัญหานี้เราแก้ได้ด้วยการทำให้ผิวชุ่มชื่น ซึ่งการล้างหน้าด้วยน้ำมันธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่เราสามารถปรับสภาพผิวได้ค่ะ 5 ขั้นตอนล้างหน้าด้วยน้ำมันของคนผิวแห้ง อันดับแรกเราล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและซับให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็หยดน้ำมันธรรมชาติลงบนฝ่ามือ ซึ่งจะเลือกเป็น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง หรือน้ำมันมะกอก  ก็ได้นะคะ ค่อย ๆ นำน้ำมันนวดบนใบหน้าและลำคอเบา ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดกับน้ำเหลือง พร้อมกับเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้นเพื่อดึงเอาสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกมา จากนั้นนำผ้าขนหนูสะอาด ๆ ไปชุบน้ำอุ่น แล้วนำมาคุลมใบหน้า ค่อย ๆ เช็ดเอาความมันออกเบา ๆ อาจจะต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ความมันหมดไป แต่อย่าถูใบหน้าแรง ๆ เพราะอาจระคายเคืองและเกิดริ้วรอยได้ เมื่อเราทำความสะอาดผิวด้วยน้ำมันธรรมชาติเป็นปกติแล้ว ผิวที่เคยแห้งก็จะกลับมานุ่มชุ่มชื่

หลายคนที่ชินกับไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่งไปทุกอย่าง เลยทำให้ชินไปกับการกินอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน ต้องบอกเลยว่า การกินเร็ว เป็นนิสัยที่ไม่ดีอย่างมาก มันส่งผลต่อน้ำหนัก จากการศึกษาหนึ่ง ( อ้างอิง ) พบว่า 60% ของคนที่กินเร็วเกินไปก็กินมากเกินไปด้วยเช่นเดียวกัน ต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนๆ กินช้าลงอย่างได้ผล อย่ากินระหว่างอยู่หน้าจอ การกินหน้าทีวี คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่น ๆ อาจทำให้เพื่อนๆ กินอาหารอย่างรวดเร็วและไม่โฟกัส นอกจากนี้ยังทำให้เพื่อนๆ ลืมตัวว่ากินไปเท่าไหร่แล้วด้วย วางช้อนส้อมลงระหว่างคำ สิ่งนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ช้าลงและสนุกกับการเคี้ยวแต่ละครั้งมากขึ้น อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวจนเกินไป หลีกเลี่ยงการหิวมากระหว่างมื้ออาหาร มันทำให้เรากินเร็วเกินไปและตัดสินใจเรื่องอาหารได้ไม่ดี จิบน้ำตลอดวัน การดื่มน้ำตลอดมื้ออาหารจะช่วยให้รู้สึกอิ่ม เคี้ยวให้ละเอียด เคี้ยวอาหารบ่อยขึ้นก่อนที่จะกลืน เคี้ยวอาหารแต่ละคำประมาณ 20-30 ครั้ง กินอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ อาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักและผลไม้ เพราะมันเป็นอาหารที่ต้องใช้เวลานานในการเคี้ยว กัดคำเล็กๆ อาจช่วยให้เพื่อ

การเผาผลาญ (Metabolism) เป็นปฏิกิริยาทางเคมีทั้งหมดในร่างกายซึ่งมีผลต่อการมีชีวิตและการทำงานของร่างกาย ยิ่งเพื่อนๆ เผาผลาญแคลอรี่ได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสามารถลดน้ำหนักและกำจัดไขมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น การมีเมตาบอลิซึมสูงสามารถให้พลังงานและทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ดังนั้น การที่มีระบบเผาผลาญดีนั้นไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เรื่องของการลดน้ำหนักอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อความสมดุลและการทำงานของร่างกายด้วย มีหนึ่งความเชื่อที่เราได้ยินมาว่า.. ดื่มน้ำเย็น จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ดีขึ้น เรื่องนี้เป็นจริงแค่ไหน มาลองหาคำตอบไปพร้อมๆ กันดูค่ะ คนที่ดื่มน้ำแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลจะประสบความสำเร็จมากกว่าในการลดน้ำหนักและป้องกันไม่ให้น้ำหนักขึ้น เนื่องจากเครื่องดื่มหวานมีแคลอรี่ ดังนั้น การแทนที่ด้วยน้ำจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ของเพื่อนๆ โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามน้ำดื่มอาจเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญของเราได้ชั่วคราว จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำ 17 ออนซ์ (0.5 ลิตร) จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร 10-30% เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  โดยเอฟเฟกต์จากการเผาผลาญแคลอรี่นี้อาจได้ผลดีกว่า หากเราดื่มน้ำเย็น